วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553



นกสีชมพู เป็นบทความเกี่ยวกับ สัตว์ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหาหรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้นข้อมูลเกี่ยวกับ นกสีชมพู ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:โลกของสัตว์

ชนิดของปลา ปลากระเบนจุดน้ำเงิน



ชนิดของปลา ปลากระเบนจุดน้ำเงิน
ลักษณะเฉพาะตัว ลำตัวแบนและมีจุดสีน้ำเงิน เป็นปลา สวยงาม
นิสัย ชอบนอนแนบพื้นทราย รอคอยจับเหยื่อที่ผ่าน ไปมา

เดินป่า....สู่น้ำตก




เดินป่า....สู่น้ำตก
หากเรานึกถึงน้ำตกที่สวยๆ ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องตั้งอยู่กลางป่า แน่นอนว่าการที่จะเข้าไปถึงได้ ย่อมเป็นการเดินเท้าผ่านป่าเข้าไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินนักสำหรับผู้ที่มีใจรัก
hotelsthailand.com เองก็ตระหนักดีว่า ในสภาพการปัจจุบันนี้ ที่ผู้คนเริ่มห่างไกลธรรมชาติไปทุกที การที่จะให้ชาวเมืองอย่างเราๆ เดินทางเข้าไปในป่า คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก จึงได้สรรหาสาระเล็กๆ น้อย สำหรับคนเมืองที่มีหัวใจรักธรรมชาติ จะได้เตรียมตัว ให้พร้อม ก่อนที่จะเข้าไปในป่า เพื่อสัมผัสธรรมชาติที่ไม่มีทางหาได้พบ บริเวณ RCA (ฮิ ฮิ)

หมีเท็ดดี้


ตุ๊กตา เป็นของเล่นสำหรับเด็ก ซึ่งอาจเป็นรูปร่างของ คน สัตว์ หรือ ตัวละครในนิยายที่ไม่มีอยู่จริง

หมีเท็ดดี้ คือ ตุ๊กตาหรือของเล่นรูปหมีสำหรับเด็ก ซึ่งมักเป็นของขวัญโดยแฝงนัยให้เด็กมีความอดทน และเข้มแข็ง โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่กำลังเจ็บป่วย ไม่สบาย ในปัจจุบันมีจัดจำหน่ายเป็นคอลเล็กชั่นของหมีเท็ดดี้ และมักมีราคาแพง พิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้แห่งแรกของโลกตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1984เมืองแฮมเชียร์ แคว้นอังกฤษ สหราชอาณาจักรผ้าหรือพลาสติก

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เรื่อง สีกับความรู้สึก




สีให้ความรู้สึกต่างๆ แก่คนเรา เพราะค่าของสีและความหลากหลายของสีจะมีผลกระทบต่อและมีปฏิกิริยาต่อคนเรา ในบทความนี้จึงนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสีที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึก ดังนี้

สีแดง สีแดงให้ความรู้สึกร้อนแรง สีแดงจึงดึงดูดความสนใจได้ดีที่สุด โฆษณาทั้งหลาย จึงมักใช้สีแดงกับข้อความที่เน้นให้อ่าน นอกจากนี้ มันยังแสดงถึงพลัง ทำให้รถสปอร์ตทั้งหลาย มักจะใช้สีแดง สีแดงกระตุ้นอารมณ์ของคนได้ดี ทำให้ความดันสูงขึ้น

สีน้ำเงิน สีน้ำเงิน และ ฟ้าเข้ม ให้ความรู้สึกเยือกเย็น และ แข็งแกร่ง สีน้ำเงิน จึงมักถูกใช้ สำหรับ เรียกความสงบ ดับความร้อนแรงของสีแดงได้

สีแดงเหลือง การเติมสีเหลือง เข้าไปในสีแดง จะทำให้ความร้อนแรงของสีแดง เบาบางหรือทุเลาลงไปบ้าง ได้ผลมาเป็นความอบอุ่นทดแทน การผสมแดง-เหลือง แดง-น้ำตาล-เหลือง หรือ แดง-ส้ม ให้ความรู้สึก ผ่อนคลาย

สีเขียว หากสีน้ำเงิน ถูกเติมสีเหลือง เข้าไปเจือจางบ้าง ผลที่ได้ก็คือ ความเยือกเย็น ของสีฟ้า จะถูกละลาย กลายเป็นความเย็นฉ่ำแทน ส่วนผสมของ ฟ้า-เขียว หรือ ฟ้า-เขียว-เหลือง จะทำให้ รู้สึกสงบ แต่ไม่ยะเยือกเหมือนสีฟ้าเข้ม ทั้งยังให้ความ รู้สึกผ่อนเบาด้วย

สีแดงน้ำเงิน สีแดงเข้ม และ สีน้ำเงินเข้ม เมื่อนำมาอยู่ด้วยกัน จะเสริมพลัง ซึ่งกันและกัน กล่าวคือ ความร้อนแรงของแดง ทำให้มองถึงความตื่นเต้น ความเยือกเย็นของน้ำเงิน บ่งบอกถึงการควบคุม สีทั้งสองจึงหมายถึง พลัง ทำให้ถูกใช้ในการดึงดูดความสนใจ

สีส้ม สีส้มแสดงถึง ความเป็นมิตร ไม่มีองค์ประกอบของสีแดง ที่เด่นชัด จึงดูไม่คุกคาม ความเป็นเหลือง ในองค์ประกอบ ทำให้ดูอบอุ่น ส่วนของน้ำตาล ทำให้ดูเป็นมิตร

สีฟ้าเขียว ปน สีแดงเหลือง สีฟ้าในบริเวณที่เป็น tints ต้นๆ ของวงล้อสี ปะปนกับ แดง-เหลือง ในส่วนของ tints ต้นๆ ทำให้รู้สึก สดใส ซาบซ่าได้มาก

สีม่วง สีม่วง ให้ความรู้สึก ลึกลับและวังเวง จึงมักถูกเรียกว่า "สีแม่หม้าย" สีม่วงมัก ถูกใช้สื่อ ถึงความไม่แน่นอน ความไม่รู้ การปะปนกับ เหลือง-ส้ม ทำให้สีนี้ ลดความวังเวงลงไป

เรื่อง ลมบก ลมทะเล


เวลาที่เราไปเที่ยวทะเล ตอนกลางวันจะรู้สึกสดชื่น เย็นสบาย เนื่องจากมีลมพัดจากทะเลเข้าสู่ฝั่งตลอดเวลา แต่ในเวลากลางคืนสังเกตไหมว่า ทำไมไม่มีลมพัดเหมือนตอนกลางวัน ลมที่พัดนั้นเรียกว่าอะไรนะ
ลมบกและลมทะเล เกิดจากความร้อนซึ่งแตกต่างกันระหว่างบริเวณทะเลและพื้นดินตามชายฝั่งในตอนเช้าและตอนบ่าย เวลากลางวันพื้นดินตามชายฝั่งได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์ ทำให้มีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณทะเล ดังนั้นอากาศในบริเวณแผ่นดินจึงมีความหนาแน่นน้อยกว่า และความกดอากาศลดลงด้วย อากาศจึงลอยตัวขึ้น ดังนั้นอากาศเย็นตามบริเวณทะเลจะพัดเข้ามาแทนที่ ซึ่งเรียกว่า "ลมทะเล" (sea breeze) ซึ่งเกิดขึ้นในตอนกลางวัน นอกจากตามชายฝั่งทะเลแล้ว ลักษณะคล้ายลมทะเลนี้อาจจะเกิดขึ้นตามทะเลสาบใหญ่ๆ ก็ได้
ส่วน ”ลมบก” (land breeze) นั้น เกิดขึ้นในทิศตรงกันข้ามกับลมทะเล และมีกำลังแรงน้อยกว่า กล่าวคือ ในตอนกลางคืนพื้นน้ำมีอุณหภูมิสูงกว่าพื้นดิน ดังนั้นอากาศบริเวณทะเลซึ่งมีความแน่นน้อยกว่าจะลอยตัวขึ้น อากาศเย็นบริเวณแผ่นดินจะพัดออกไปแทนที่
จากความรู้เรื่องลมบกลมทะเลนี้ ชาวประมงได้อาศัยกำลังของลมบกช่วยในการแล่นเรือออกจากฝั่งในเวลากลางคืน และอาศัยกำลังของลมทะเลช่วยพัดเรือเข้าสูฝั่งในเวลารุ่งเช้า

การกล่าวทักทาย


การกล่าวทักทาย (Greeting) มีทั้งแบบเป็นทางการ (Formal) ใช้ทักทายคนที่เพิ่งรู้จักกัน ทักทายผู้ใหญ่ และแบบไม่เป็นทางการ (Informal) ใช้ทักทายเพื่อน บุคคลที่สนิทสนม
ในการกล่าวคำทักทายกับเพื่อนนั้น จะใช้คำง่ายๆ อย่างเช่น Hi. หรือ Hello. แล้วตามด้วยชื่อเพื่อน ในประเทศทางยุโรปนั้นเมื่อกล่าวทักทายกันจะมีการจับมือกันด้วย (Shake hand) (เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งเหมือนกับการไหว้ของคนไทย) และเพื่อนที่เราทักทายนั้นจะตอบ Hi. หรือ Hello. เช่นเดียวกัน

หอนางอุษา



หอนางอุษา
หอนางอุษา ตั้งอยู่ที่บริเวณภูพระบาทบัวบก อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ลักษณะเป็นก้อนหินโดดๆ มีฐานใหญ่ข้างล่างคอดเป็นเสาตอนกลาง และบานออกเป็นแท่นตอนบน
ลักษณะที่ปรากฏนี้เกิดจากการทำลายชะกร่อนโดยธรรมชาติ หอนางอุษานี้ประกอบด้วยชั้นหินที่มีความต้านทานต่อการทำลายชะกร่อนไม่เท่ากัน ชั้นบนเป็นหินที่แข็งกว่าชั้นกลาง จึงทำหน้าที่เป็นเสมือนหมวกเหล็กป้องกันการชะกร่อนโดยน้ำฝน แม้กระนั้น ส่วนกลางซึ่งเป็นหินที่แข็งน้อยกว่าก็ยังถูกชะกร่อนทำลายไปจนเหลือเป็นแท่งเล็กกว่าเช่นกัน จึงยังเหลือจากการทำลายชะกร่อนใหญ่กว่า และหอนางอุษานี้ยังอยู่ในสภาพสมดุลที่จะคงอยู่ในสัณฐานนี้ได้
หอนางอุษาประกอบด้วยหินแข็งที่มีชั้นหินแข็งที่แตกต่างกัน การทำลายชะกร่อนโดยธรรมชาติยังจะคงดำเนินต่อไป แต่การเปลี่ยนแปลงรูปร่างจะเป็นไปอย่างช้ามาก ในช่วงอายุคนอาจยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงรูปหอนางอุษา จึงเหมือนหนึ่งเป็นสิ่งคงทนถาวรในธรรมชาติตลอดไป
ในประเทศไทยได้พบลักษณะการเกิดสัณฐานเป็นรูปร่างต่างๆ กัน เช่นเดียวกับการเกิดหอนางอุษา แต่พบเกิดจากชั้นกรวดทรายที่ยังไม่จับตัวกันเป็นหินแข็งเต็มที่ เป็นชั้นกรวดทรายที่เริ่มจะจับตัวกันเป็นหินแข็ง เรียกว่าเป็นชั้นกรวดทรายกึ่งหิน (Semi-consolidated beds) การเกิดก็พบว่าเกิดจากการที่มีชั้นกรวดทรายกึ่งหินที่แข็งกว่าปิดอยู่ ชั้นบนทำหน้าที่เสมือนหมวกเหล็กคุ้มกันชั้นกรวดทรายที่อ่อนกว่าข้างใต้ ทำให้เกิดเป็นรูปร่างต่างๆ เช่น เหมือนเจดีย์เรียงรายกัน พบที่ข้างทางสายหล่มสัก-ชุมแพ ในช่วงใกล้ๆ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เหมือนครีบเหมือนหน่อที่ข้างทางสายแม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน พบเป็นแท่งเหมือนเสา ซากสลักหักพังของสิ่งก่อสร้างโบราณที่แพะเมืองผี จังหวัดแพร่ ที่ฮ่อมจ๊อม จังหวัดน่าน
น่าเสียดายว่ารูปร่างสัณฐานเหล่านี้เกิดจากกรวดทรายกึ่งหิน การถูกทำลายชะกร่อนโดยธรรมชาติจึงเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าลักษณะของหอนางอุษาเป็นอันมาก อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงในปีหนึ่งๆ ก็เป็นไปได้
หอนางอุษา อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

ตำนานแห่งดวงดาว


ตำนานแห่งดวงดาว
ตำนานกลุ่มดาวลูกไก่
เล่ากันมาว่า มีพระยาท่านหนึ่งปรารถนาจะยกลูกสาวให้พระอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ เมื่อลูกศิษย์ได้ยินเช่นนั้นอยากจะได้นางเสียเอง จึงแปลงร่างเป็นแมลงภู่ เกาะดอกไม้อยู่ข้างหน้าต่างที่ห้องของนาง อาจารย์เห็นดังนั้นจึงบอกให้นางเด็ดดอกไม้ส่งให้ แมลงภู่กระซิบข้างหูนางมิให้ส่งให้แก่อาจารย์ อาจารย์รู้ว่าเป็นแมลงภู่ที่แปลงร่างมา จึงปัดดอกไม้ลงที่พื้น แล้วแมลงภู่ก็กลายร่างเป็นเมล็ดข้าวเปลือก อาจารย์จึงกลายร่างเป็นไก่ จะจิกข้าวเปลือก ทันใดนั้นเมล็ดข้าวเปลือกก็กลายเป็นเสือนกจะกัดไก่ ไก่จึงกลายร่างเป็นเสือโคร่ง ผู้คนเห็นเสือโคร่งตัวใหญ่ต่างก็ตระหนกตกใจจึงช่วยกันหาอาวุธมาไล่ฆ่าเสือโคร่งจนตาย เสือนกจึงกลายร่างเป็นศิษย์อกตัญญูคนเดิม และได้ลูกสาวพระยาเป็นภรรยา อยู่กินด้วยกันตลอดชีวิต


ตำนานกลุ่มดาวลูกไก่
เล่ากันมาว่า มีพระยาท่านหนึ่งปรารถนาจะยกลูกสาวให้พระอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ เมื่อลูกศิษย์ได้ยินเช่นนั้นอยากจะได้นางเสียเอง จึงแปลงร่างเป็นแมลงภู่ เกาะดอกไม้อยู่ข้างหน้าต่างที่ห้องของนาง อาจารย์เห็นดังนั้นจึงบอกให้นางเด็ดดอกไม้ส่งให้ แมลงภู่กระซิบข้างหูนางมิให้ส่งให้แก่อาจารย์ อาจารย์รู้ว่าเป็นแมลงภู่ที่แปลงร่างมา จึงปัดดอกไม้ลงที่พื้น แล้วแมลงภู่ก็กลายร่างเป็นเมล็ดข้าวเปลือก อาจารย์จึงกลายร่างเป็นไก่ จะจิกข้าวเปลือก ทันใดนั้นเมล็ดข้าวเปลือกก็กลายเป็นเสือนกจะกัดไก่ ไก่จึงกลายร่างเป็นเสือโคร่ง ผู้คนเห็นเสือโคร่งตัวใหญ่ต่างก็ตระหนกตกใจจึงช่วยกันหาอาวุธมาไล่ฆ่าเสือโคร่งจนตาย เสือนกจึงกลายร่างเป็นศิษย์อกตัญญูคนเดิม และได้ลูกสาวพระยาเป็นภรรยา อยู่กินด้วยกันตลอดชีวิต

พยากรณ์อากาศ


พยากรณ์อากาศ

การพยากรณ์อากาศเป็นการคาดหมายสภาวะของลมฟ้าอากาศรวมทั้งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาข้างหน้า โดยวิธีสังเกตสภาพของอากาศในปัจจุบันด้วยเครื่องมือและวิธีการทางอุตุนิยมวิทยา คำพยากรณ์อากาศที่นักเรียนควรรู้จักเพื่อจะได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเมื่อฟังข่าวพยากรณ์อากาศ

เรื่องของก้อนหิน



เรื่องของก้อนหิน
นักธรณีวิทยาแบ่งหินเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการเกิด ได้แก่
1. หินอัคนี เกิดจากการแข็งตัวของหินหนืด ที่หลอมละลายอยู่ระหว่างเปลือกโลก และแมนเทิล หรือเกิดจากการรวมตัวของแร่ที่ตกผลึกมาจากหินหนืด แบ่งเป็น 2 พวก คือ
1) หินที่เกิดจากการที่หินหนืดเย็นตัวและตกผลึกอย่างรวดเร็วกลายเป็นหินที่มีผลึกแร่ขนาดเล็กละเอียด เรียกว่า หินอัคนีภูเขาไฟ เย็นตัวบนเปลือกโลก หรือเรียกว่า หินอัคนีพุ เช่น หินไรโอไลต์ หินบะซอลต์ เป็นต้น 2) หินที่เกิดจากการที่หินหนืดเย็นตัวและตกผลึกอย่างช้าๆกลายเป็นหินผลึกแร่ขนาดใหญ่ เย็นตัวภายในเปลือกโลก เรียกว่า หินอัคนีแทรกซ้อน เช่น หินแกบโบร เป็นต้น
หินออบซิเดียน
ตัวอย่างหินอัคนี
หินแกรนิต (Granite) เกิดจาการเย็นตัวของแมกมาอย่างช้าๆ สายแร่ที่มีสินแร่โลหะมีค่าหลายชนิดมักพบเกิดร่วมกับแกรนิตเนื้อหยาบจะเป็นหินให้กำเนิดแร่รัตนชาติได้ดีมีส่วนประกอบของแร่ซิลิกาสามชนิด ได้แก่ แร่ควอตซ์ เฟลด์สปาร์ และไมกาในส่วนหินแกรนิตสีชมพูแร่ประกอบหินส่วนใหญ่ จะเป็นแร่เฟลด์สปาร์ชนิดออร์โทเคลส
หินออบซิเดียน (Obsidian) เกิดจากหินหนืดที่ขึ้นมาแข็งตัวบนเปลือกโลกมีซิลิกาเจือปนมากมีความหนืดสูง ทำให้ลาวาแข็งตัวอย่างรวดเร็ว ผลึกแร่ จึงไม่มีเวลาตกผลึก มีลักษณะคล้ายเนื้อแก้วเปรียบเทียบได้กับวัสดุแก้วนำมาทำอาวุธในสมัยยุคแรก อย่างเช่น ใบหอก
หินไรโอไลต์ (Rhyorite) ประกอบด้วยผลึกแร่เนื้อละเอียดเป็นพวกแร่ควอตซ์ เฟลด์สปาร์ และไมกา
หินบะซอลต์ (Basalt) แร่ประกอบหินบะซอลต์ ได้แก่แร่เฟลด์สปาร์ ไพรอกซิน และโอลีวีน ทำให้หินบะซอลต์มีสีดำเข้มถึงสีดำ ผลึกแร่ประเภทนี้จะมีขนาดเล็กมาก บางครั้งผลึกแร่ขนาดเล็กจะห่อหุ้มผลึกแร่ขนาดใหญ่ไว้ กลายเป็นเนื้อดอก
หินพัมมิซ (Pumice) มีลักษณะเหมือนหินสคอเรีย แต่รูพรุน มีขนาดเล็กกว่า มีน้ำหนักเบาลอยน้ำได้ หรือเรียกอีกอย่างว่า หินลอยน้ำ หรือ หินส้ม ใช้ทำวัสดุขัดถู มักพบตามชายฝั่งทะเล
หินแอนดิไซต์ (Andesite) เป็นหินอัคนีพุ หรือหินภูเขาไฟ เนื้อละเอียด แน่นทึบ มีผลึกละเอียดกระจัดกระจายอยู่ ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ดู ใช้ทำถนน ทางรถไฟ ทำหินเกล็ด ใช้ในการก่อสร้าง
2. หินตะกอน เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนที่ถูกพัดพามาโดย น้ำ ลม แล้วเกิดการแข็งตัวเป็นตะกอน มีอยู่ประมาณ 5% ของเปลือกโลก คิดเป็นความหนาแน่นประมาณ 10 กิโลเมตร ดังนั้นหินตะกอนจึงมีสภาพเป็นส่วนที่ปกคลุมอยู่บนผิวโลกในลักษณะชั้นบางๆเท่านั้น และจับตัวแข็งกลายเป็นหินตะกอน ได้แก่ หินปูน และหินดินดาน

ลมพายุ


ลมพายุ
พายุที่หมุนพัดเข้ามายังประเทศไทย เรียกชื่อรวมๆว่า พายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone) เกิดขึ้นบริเวณเส้นศูนย์สูตรระหว่าง 23 1/2 องศาเหนือ และ 23 1/2 องศาใต้ เกิดในทะเลหรือมหาสมุทร บริเวณก่อตัว ของพายุมีอุณหภูมิของน้ำสูงกว่า 26 C ํ รวมทั้งมีลมสงบเงียบเป็นเวลาค่อนข้างนาน
ลักษณะของพายุเป็นบริเวณตามกดอากาศต่ำ มีการก่อตัวของเมฆเป็นลำสูงขึ้นไปในอากาศ 10-15 กม. ตรงศูนย์กลาง พายุจะมีความกดอากาศต่ำมากที่สุด
ความแรงของพายุหมุนเขตร้อน แบ่งได้เป็น 3 ระดับ ตามข้อตกลงขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก 1 พายุดีเปรสชั่น (Depression) เป็นพายุกำลังอ่อน ความเร็วสูงสุดใกล้บริเวณศูนย์กลาง ไม่เกิน 33 นอต หรือ 62 กม./ชม. 2 พายุโซนร้อน (Tropical Storm) เป็นพายุกำลังปานกลาง ความเร็วลมสูงสุดใกล้บริเวณศูนย์กลาง ตั้งแต่ 34 - 63 นอต หรือ 63 - 117 กม./ชม. 3 พายุไต้ฝุ่น (Typhoon) เป็นพายุกำลังรุนแรง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้บริเวณศูนย์กลาง ตั้งแต่ 64 นอตขึ้นไป หรือ 118 กม./ชม. ขึ้นไป พายุหมุนแต่ละลูกมีการตั้งชื่อเพื่อความสะดวกในการแจ้งข่าว รวมทั้งทำให้เรียงและจดเป็นสถิติได้ง่าย โดยองค์การ อุตุนิยมวิทยาโลก และสมาชิกได้ตกลงกันจัดตั้งชื่อพายุเรียงไว้ตามลำดับอักษรตั้งแต่ A-Z และเรียงชื่อของพายุตามลำดับก่อน หลังตามวันและเวลาที่เกิด
ตั้งแต่ปี 2543 ได้เกิดระบบการตั้งชื่อพายุเป็นภาษาพื้นเมืองของแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศสมาชิกในแถบ มหาสมุทรแปซิฟิกตอนบนและแถบทะเลจีนใต้รวม 14 ประเทศ ทำความตกลงกับองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ตั้งชื่อพายุเองโดยแต่ละประเทศตั้งชื่อพายุ 10 ชื่อ รวม 140 ชื่อ จากนั้นนำมาเรียงสลับชื่อกันเป็น 5 กลุ่มๆ ละ 28 เมื่อเกิดพายุก็จะนำชื่อในกลุ่มที่ 1 มาตั้งชื่อจนหมด จึงนำชื่อในกลุ่มที่ 2 มาใช้ต่อ 140 ชื่อพายุรุ่นใหม่
ประเทศ
ชื่อพายุ
ไทย
พระพิรุณ ทุเรียน วิชา รามสูร เมขลา หนุมาน นิดา ชบา กุหลาบ ขนุน
ลาว
โบลาเวน ปลาบึก พันฝน เกศนา นกเต้น ช้างสาร ฟ้าใส จันทร์หอม น้ำต้น มัทสา
กัมพูชา
ดอมเรย์ กองเรย์ นากรี กรอวาญ สาริกา โบพา กรอซา ไมสัก จันทู เนสาด
จีน
หลงหว่าง ยูทู ฟงเฉิน ตู้เจี้ยน ไหหม่า หวู่คง ไห่เยี่ยน ไห่เฉิน เตี้ยมู่ ไห่ถัง
เกาหลีเหนือ
ไคโรจิ โทราจิ เคาเมจิ เมมิ มิอะริ โซนามุ โพดอล พงโซนา มิดอนเล นอเก
ฮ่องกง
ไคตั๊ก มานยี่ ฟองวอง ฉอยหวั่น มาง่อน ซานซาน แหล่งแหลง ยันยัน เทงเท๋ง บันหยัน
ญี่ปุ่น
เทมบิน อุซางิ คุมมุริ ขอบปุ โทะคาเงะ ยางิ คะจิคิ คุจิระ คอมปาซึ วาชิ
มาเก๊า
จันจู วิทิบ หวังฟง พาร์มา มุ้ยฝ่า เบบินก้า ฮัวเหม่ย คลินฝ่า หม่าเหลา ซันหวู่
มาเลเซีย
เจอลาวัต เซอพัต รูซา มีเลอ เมอร์บุค รัมเบีย ทาปา นังก้า เมอรันติ มาวา
ไมโครนีเซีย
เอวินตา ฟิโท ซินลากู เนพาทัค นันมาดอล ซูลิค มิแทค ซูเดโล รานานิม กูโชว
ฟิลิปปินส์
บิลิส ดานัส ฮากุปิด ลูปิด ทาลัส ซิมารอน ฮาจิบิส อิมบุโด มาลากัส ทาลิม
เกาหลีใต้
เกมี นารี ชังมี ซูดาล โนรู เชบี โนกูรี โกนี เมกี นาบี
สหรัฐอเมริกา
มาเรีย ฟรานซิสโก ฮีโกส โอเมส โรเค อูโท ชาทาน อีโท โคโด วีเซนเต้
เวียดนาม
เซลไม เลคคีมา บาวี คอนซอน ซอนคา ทรามี ฮาลอง แวมโค ซองดา เซลลา

ผลิตภัณฑ์สุขภาพ


ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
หมายถึง อาหาร ยา วัตถุเสพติด เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุมีพิษ
ผลิตภัณฑ์สุขภาพทุกชนิดอย่างน้อยต้องมีฉลากภาษาไทยที่แสดงชื่อผลิตภัณฑ์ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต หรือผู้แทนจำหน่าย วันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุ สำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภทจะมีการแสดงส่วนประกอบหรือสูตรตำรับ วิธีการบริโภค ข้อควรระวังในการใช้ หรือข้อความจำเพาะอื่น ๆ ของแต่ละผลิตภัณฑ์เพิ่มด้วย
ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อและก่อนบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ จึงควรศึกษาฉลากให้เข้าใจก่อนทุกครั้ง

ขนมใส่สี...มีอันตราย


ขนมใส่สี...มีอันตราย
ลูกอม หมายถึง ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้อมหรือเคี้ยว ที่มีการแต่งรสใดๆ มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก และอาจมีส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อปรุงแต่งกลิ่นรสด้วยหรือไม่ก็ได้
ประเภทของลูกอม ลูกอม เป็นขนมหวานประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดาเด็กๆ และวัยรุ่น แบ่งตามลักษณะทางกายภาพได้ 3 ประเภท คือ
1. ลูกกวาด (Hard candy) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะแข็ง เมื่อเคี้ยวจะแตก อาจมีการสอดไส้ด้วยก็ได้ ซึ่งผลิตโดยการละลายน้ำตาล กลูโคสไซรัป น้ำ นำมาเคี่ยวจนได้ที่นวดผสมกันแล้วรีดอัดเป็นเม็ด
2. ขนมเคี้ยว (Chewy candy) ได้แก่ คาราเมล (Caramels) ทอฟฟี่ ลักษณะจะนิ่มจนถึงค่อนข้างแข็ง ผลิตโดยการนำน้ำตาลกลูโคสไซรัป น้ำ ไขมัน หรือส่วนประกอบอื่นปั่นให้เข้ากันจนมีลักษณะเป็นอิมัลชั่นก่อน จึงนำมาเคี่ยวจนได้ที่ นวดผสม และรีดอัดเม็ด
3. ซอฟต์แคนดี้ (Soft candy) ได้แก่ ครีม (Creams), ฟัดส์ (Fudges), มาร์ชแมลโล (Marshmallow) ผลิตภัณฑ์จะมีลักษณะนิ่มอ่อนตัวมากกว่าขนมเคี้ยว เนื่องจากมีปริมาณความชื้นมากกว่า
ส่วนประกอบที่สำคัญของลูกอม ลูกอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลักๆ ได้แก่ สารให้ความหวาน, สารแต่งรสหรือกลิ่น สารแต่งสี และอื่นๆ
- สารให้ความหวาน ได้แก่ น้ำตาลทราย กลูโคสไซรัป รวมทั้ง น้ำตาล แอลกอฮอล์ เช่น ซอร์บิทอล แมนนิทอล โดยจะมีผลต่อความหวาน รวมทั้งความใสของลูกอมด้วย
- สารแต่งรสหรือกลิ่น ได้แก่ วัตถุแต่งกลิ่นรส ทั้งที่เป็นธรรมชาติ เช่น น้ำมันยูคาลิปตัส น้ำมันจากเปลือกส้ม หรือจากการใช้สารเคมีผสมให้เกิดกลิ่นที่ต้องการ เช่น ครีมโซดา กลิ่นองุ่น หรือส่วนประกอบที่แต่งกลิ่นรสได้ เช่น กาแฟผงในลูกอมรสกาแฟ หรือนมผงในทอฟฟี่นม เป็นต้น
- สารแต่งสี ลูกอมโดยปกติจะเกิดสีน้ำตาล อันเนื่องจากความร้อน ที่ใช้ในการผลิตในช่วงเคี่ยวน้ำตาล แต่บางครั้งผู้ผลิตจำเป็นต้องใส่สีต่างๆ เพื่อดึงดูดใจของผู้ซื้อ เช่น แต่งสีแดงสำหรับลูกอมกลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ เป็นต้น
- ส่วนประกอบอื่นๆ ได้แก่ กรดอินทรีย์ กรดที่นิยมใช้ในการผลิตลูกอม ได้แก่ กรดซิตริก กรดตาร์ตาริก และกรดมาลิก โดยใช้เพื่อควบคุมความหวาน แต่งรสและยืดอายุการเก็บผลิตภัณฑ์

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ผลไม้


ผลไม้ หมายถึง ผลที่เกิดจากการขยายพันธุ์โดยอาศัยเพศของพืชบางชนิด ซึ่งมนุษย์สามารถรับประทานได้ และส่วนมากจะไม่ทำเป็นอาหารคาว ตัวอย่างผลไม้ เช่น ส้ม แอปเปิ้ล กล้วย มะม่วง ทุเรียน รวมถึง มะเขือเทศ ที่สามารถจัดได้ว่าเป็นทั้งผักและผลไม้